วิธีระบุบริษัท SEO โปรโมทเว็บที่หลอกลวง

เนื่องจากมีคนไม่มากนักที่รู้และเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการจัดอันดับเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์ ผู้คนจำนวนมากน่าจะดีกว่าหากจ้างบริษัท SEO โปรโมทเว็บมาทำแทน

การประสบความสำเร็จทางออนไลน์โดยใช้ SEO อาจเป็นงานที่ยากและน่าเบื่อหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่มีทักษะและความรู้ด้าน SEO ที่จำเป็นซึ่งคุณต้องการเพื่อให้สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่คุณต้องการ ซึ่งก็คือการเพิ่มการเข้าชมที่เกิดจาก ธุรกิจออนไลน์หรือเว็บไซต์ของคุณด้วยการจัดอันดับสูงในผลการค้นหา โชคดีสำหรับคุณ มีบริษัท SEO มืออาชีพจำนวนมากที่เชี่ยวชาญด้าน SEO ใดก็ตามที่คุณอาจมี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเสียดายคือโลกของ SEO ไม่ปลอดภัยจากสแกมเมอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนไม่มากนักที่รู้เรื่องนี้มากพอที่จะสามารถรับรู้ถึงสแกมดังกล่าวได้ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่ใช่ทุกบริษัท SEO ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และบางบริษัทมีอยู่เพราะพวกเขาตั้งใจที่จะหลอกล่อเหยื่อที่ไม่สงสัยซึ่งอาจต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา แต่เนื่องจากบริษัท SEO โปรโมทเว็บที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าบริษัทใดมีจริงและบริษัทใดไม่มี โชคดีที่มีหลายวิธีที่เราสามารถระบุบริษัท SEO ที่หลอกลวงได้

บริษัท SEO โปรโมทเว็บหลอกลวง

วิธีหนึ่งในการระบุว่าบริษัท SEO โปรโมทเว็บนั้นเป็นของจริงหรือเป็นเพียงการหลอกลวงคือการดูว่าพวกเขาทำการตลาดหรือโฆษณาบริการของตนอย่างไร บริษัท SEO ที่แท้จริงและประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการบางอย่าง เช่น การโทรติดต่อหรือส่งอีเมลถึงความสามารถของพวกเขา เพื่อโฆษณาความสามารถและความสำเร็จของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ทำอาจทำเช่นนั้นตามลำดับ เพื่อให้คุณจ้างพวกเขาแทน

หากบริษัท SEO มีความตั้งใจจริงและประสบความสำเร็จในความพยายามของตน ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะพบวิธีที่จะรู้จักพวกเขาและเข้าถึงพวกเขาโดยที่บริษัทไม่ต้องเผยแพร่ผลงานของตนทางออนไลน์ จำไว้ว่าการบอกปากต่อปากสามารถส่งต่อได้ค่อนข้างเร็ว และถ้าบริษัท SEO โปรโมทเว็บบางแห่งสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าของตนได้ ประสิทธิภาพของพวกเขาก็จะกระจายไปสู่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ารายอื่นๆ ในที่สุด

นอกจากนี้ บริษัท SEO โปรโมทเว็บหลอกลวงสามารถรับประกันได้เฉพาะตำแหน่งระดับสูงในเครื่องมือค้นหาโดยใช้ชื่อเฉพาะ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะทำในเครื่องมือค้นหา สิ่งที่คุณต้องการคือการได้อันดับสูงโดยใช้คำทั่วๆ ไป แทนที่จะใช้คำเฉพาะเจาะจง เช่น ถ้าบริษัทของคุณขาย “เฟอร์นิเจอร์” คุณต้องการได้อันดับสูงสำหรับ “เฟอร์นิเจอร์” ไม่ใช่สำหรับ “เฟอร์นิเจอร์หินอ่อนที่ร่วงหล่น” เนื่องจากมี ชื่อที่ไม่ซ้ำกันมากยังสามารถส่งผลให้คุณมีอันดับสูงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีบริษัทหรือเว็บไซต์อื่นใช้ชื่อนี้

คนอื่นอาจใช้เว็บไซต์อื่นที่มีอันดับสูงและใช้เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถของพวกเขา คุณสามารถตรวจสอบได้โดยทำการตรวจสอบประวัติบนเว็บไซต์ที่ระบุโดยดูที่ซอร์สโค้ด หรือคุณสามารถตรวจสอบบริษัทได้ด้วยการค้นหาลายเซ็นดิจิทัลบนเว็บไซต์ดังกล่าวและดูว่าตรงกับบริษัทของพวกเขาหรือไม่ คุณยังสามารถตรวจสอบประวัติของพวกเขาและกำหนดระยะเวลาที่พวกเขาอยู่รอบๆ คุณยังสามารถพูดคุยกับลูกค้าของพวกเขาและถามพวกเขาเกี่ยวกับบริการที่บริษัท SEO จัดหาให้

วิธีเขียนเนื้อหา SEO ให้น่าสนใจ เข้าทาง Google

ใส่คีย์เวิร์ดลงใน Heading Tag (H1-H3)

สำคัญมากๆ เพื่อให้ google รับรู้เข้าใจว่าเรากำลังจะบอกเรื่องเกี่ยวกับอะไร ต้องการทำ SEO ให้ติดอันดับในคีย์เวิร์ดไหน เช่น บทความ “วิธีทำข้าวไข่เจียว” ก็ต้องมีคำว่า “ไข่เจียว” เป็นคีย์เวิร์ดหลัก หากต้องการให้คนค้นหาคำว่า “ไข่เจียว” แล้วเจอบทความหรือวีดีโอของเรา

และยังต้องใส่คำอธิบาย (Meta description) เพื่อเป็นการย้ำให้ Google เข้าใจว่าบทความเราเกี่ยวข้องกับอะไรกันแน่ รวมถึงการแทรกเนื้อหา ลิงก์บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็ช่วยให้ Google  รู้จักเรามากขึ้นได้อีก

วิเคราะห์การทำ SEO เพื่อปรับปรุงเนื้อหา

เมื่อเราสร้างสรรค์บทความไปได้สักระยะ (อาจจะ 3-6 เดือน) ขั้นตอนสุดท้ายคือการวัดผลลัพท์ที่เกิดขึ้นว่าบทความ หรือเนื้อหาบนเว็บไซต์ ที่เราสร้างนั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ฟรี เช่น Google analyticGoogle search console เพื่อเช็กอันดับคีย์เวิร์ด ยอดคลิก และยอดเข้าชมเว็บไซต์

วิเคราะห์คีย์เวิร์ด SEO ให้คำค้นตรงกับเนื้อหา

คีย์เวิร์ดคือส่วนสำคัญที่ทำให้ SEO ติดอันดับได้ง่ายขึ้น เพราะคีย์เวิร์ดเหล่านี้มาจากบทความที่เราเขียน และพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ค้นหาคำนั้นๆ คำค้นหาที่มีการค้นหาจำนวนมาก ก็อาจจะได้รับทราฟฟิคเป็นจำนวนมาก หมายความว่าโอกาสคนที่จะมาเป็นลูกค้าก็มากขึ้นด้วย เราอาจหาโดยใช้เครื่องมือฟรีอย่าง google keyword planner ก็ได้

เขียนเนื้อหาที่มีประโยชน์

บทความที่ดีนอกจากเขียนดี ต้องคำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ เพราะเมื่อเนื้อหาดีแล้วตอบโจทย์ มีประโยชน์แก่ผู้ใช้งานจริงๆ ผู้ใช้งานจะกลับมาอีกหรือนำไปบอกต่อ ส่งต่อให้เพื่อนๆ และระยะเวลาของผู้ใช้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลถึงอันดับในหน้าเว็บเพจนั้นๆ อีกด้วย

เราอาจเพิ่มสิ่งที่น่าสนใจลงไปในหน้าเว็บเพจ เพื่อดึงให้ผู้ใช้งานอยู่เป็นเวลานานได้ เช่น วีดีโอ อินโฟกราฟิก เกมส์สนุกๆ คำถามน่าสนใจ เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.netdesignrank.co.th/